เกี่ยวกับเรา

ศูนย์รวมสายและเครื่องบีบสายไฮดรอลิค นำเข้าแท้ 100% เครื่องอัดสายไฮดรอลิค สินค้านำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส สายไฮดรอลิคคุณภาพสูง นำเข้าโดยตรงจากต่างประเทศ (USA) ผู้ชำนาญการ สายไฮดรอลิค ท่อยางอุตสาหกรรม ข้อต่อ เครื่องบีบ ตัด ปลอกสายทุกชนิด ท่อยาง ท่อลม ท่อนํ้า ท่ออ่อน

ค้นหาสินค้า

Catagories

Catalogue

Article

การเลือกสายไฮดรอลิคอย่างเหมาะสม

สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สายไฮดรอลิคเกิดความเสียหาย คือ

ความเสียหายภายนอก

ประมาณ 80% ของความเสียหายของสายมีสาเหตุมาจากความเสียหายทางกายภาพภายนอก เช่น การดึง การบิด การกระแทก หรือ รอยขีดข่วนที่เกิดจากการเสียดสีกับวัสดุอื่นๆ เพื่อป้องกันความเสียหายภายนอกนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายถูกติดตั้งไว้ในที่ปลอดภัย ใส่ใจระมัดระวังเส้นทางในการเดินท่อ ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้พลาสติกห่อ หรือ สปริง เพื่อป้องกันการเสียดสีของสายไฮดรอลิค การบิดของสายไฮดรอลิค

การบิดของสายไฮดรอลิคจะทำให้เส้นลวดในสายเกิดความเสียหาย การบิดของสายที่ 5 องศาสามารถลดอายุการใช้งานของสายไฮดรอลิคลง 70% และการบิดตัวของสายที่ 7 องศาจะส่งผลในการลดอายุการใช้งานลง 90% เช่น ถ้าสายเรารับแรงดันได้ 100 bar เมื่อสายบิดที่ 5 องศา จะสามารถรับแรงดันได้เพียง 30 bar เท่านั้น

สาเหตุของการบิดมาจากการอัดสายและติดตั้งทิศทางของข้อต่อผิดทาง แล้วต้องบิดเพื่อให้ติดตั้งได้ หรืออาจเกิดจากการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรไปดันให้สายผิดรูป

สภาพการดำเนินงาน

สภาพการดำเนินงานที่ท่อไฮดรอลิคสามารถส่งผลกับอายุการใช้งานของสายไฮดรอลิคได้ เช่นสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือสภาพอากาศที่หนาวจัด สามารถทำให้สายเสื่อมสภาพได้ง่าย

การกระแทกของน้ำหนักที่เกิดขึ้นกับกระบอกไฮดรอลิคก็จะส่งผลกับสายไฮดรอลิคโดยตรง คือความถี่ของการกระแทกจะทำให้เส้นลวดในสายเกิดความล้า การเลือกสายสำหรับการใช้งานลักษณะนี้ไม่ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับความดันทำงาน (working pressure) ควรเผื่อแรงดันทำงานของสายไว้พอสมควรเพื่อรองรับกับการกระแทกของภาระที่เกิดขึ้น

การเลือกสายไฮดรอลิคอย่างเหมาะสม

สาเหตุของสายไฮดรอลิคระเบิดเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน

เรื่องสายระเบิดนั้นเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากเพราะแรงดันที่จะทำให้ระเบิดได้ต้องมากกว่าแรงดันที่สายรับได้ประมาณ 4 ถึง 5 เท่า ส่วนเรื่องสายหมดอายุก็มีส่วน ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นเลยว่าสายกรอบ แตกลายงา หรือรั่ว ( ถ้าย้ำปลอกหัวสายได้ค่าที่กำหนด แล้วแรงดันสูงเกินกว่าที่สายจะทนได้ สายจะแตกก่อน แต่จะไม่หลุดจากปลอกย้ำ ) ปกติสายจะไม่หลุดจากหัวสายง่ายๆ น่าจะเกิดจากการประกอบไม่ดีไม่ตรงตามสเปคของสายคือบีบน้อยไป หรือถ้าบีบมากไปสายข้างในก็จะขาด สายไฮดรอลิคตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ต้องปลอกเปลือกหุ้มสายบริเวณที่จะสวมหัวสายเข้าไปในปลอกย้ำก่อน แต่ก็มีชนิดที่ไม่ต้องปลอกสายด้วย สายไฮดรอลิคจะมีหลายแบบและราคาจะต่างกัน ทางที่ดีเราควรเลือกสายที่ได้มาตรฐานและร้านที่น่าเชื่อถือที่มีประสบการณ์ จะทำให้เราใช้งานสายไฮดรอลิคได้ยาวนานขึ้น

การเลือกสายไฮดรอลิคอย่างเหมาะสม

ระบบไฮดรอลิค

เป็นระบบที่เริ่มต้นบนพื้นฐานที่เรียบง่ายอย่างการ ใช้แรงดันของๆเหลวในการก่อให้เกิดแรงที่สามารถใช้ในเครื่องจักรประยุกตร์ ก่อนที่จะเริ่มต้นพัฒนากลายเป็นระบบที่มีความซับซ้อน หากแต่ว่าความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นมานี้ ในขณะเดียวกัน สามารถที่จะทำให้ระบบแรงดันของเหลวอย่างง่าย ให้กลายเป็นระบบที่สามารถใช้ในงานเครื่องจักรใหญ่ ได้เช่นกัน

จากที่เราได้กล่าวไป ระบบไฮดรอลิคคือการใช้แรงของๆเหลวในการทำให้เกิด "แรง" และ "งาน" ที่ถูกผันไปใช้ในการขับเคลื่อนอุปกรณ์เครื่องจักร ซึ่งในเมื่อก่อนจะเป็นแบบเรียบง่ายโดยอาศัยแรงกระแสการไหลของน้ำใน "ท่อ" ซึ่งน้ำที่ไหลจะมีแรงสะสมมากพอที่จะใช้ในการหมุนกังหัน หรือ ฟันเฟืองเพื่อทำให้เครื่องจักรเดิน ซึ่งระบบแบบเก่านี้มีข้อเสียคือ

  • จำกัดแรงที่ของๆเหลวสามารถทำงานได้
  • ต้องการพื้นที่ ขนาดใหญ่มากในการใช้งานและติดตั้ง
  • สิ้นเปลืองในทุกๆทางที่สามารถจินตนาการออกได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่, เงิน, ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ

แต่ด้วยการพัฒนาของศาสตร์ในไฮดรอลิค ปัจจุบันนี้เราสามารถที่จะประกอบชุดเครื่องจักรไฮดรอลิคที่สามารถมอบแรงดัน/แรงอัด ได้มากกว่าเมื่ออดีตเป็นหลายเท่า ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ไฮดรอลิคในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงนั้น เกิดขึ้นมาจาก เครื่องปั๊ม, ของเหลวที่ใช้ และ สายที่ใช้ในการอัดส่งแรง โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องหลักๆที่อาจจะดูเล็กน้อยแต่สำคัญมาก นั่นคือ สายของไฮดรอลิค

ในตลาดของสายไฮดรอลิค หลายๆยี่ห้อมักจะแข่งขันในเรื่องของ ความคงทนของสาย หรือไม่ก็ ความสามารถในส่งผ่านแรงดันของสาย หรือจะเป็นลักษณะพิเศษเสริมก็ตามแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกสายไฮดรอลิคนั้น แบ่งออกที่ลักษณะพื้นฐานของมันโดยทีว่า

ขนาด :

การเลือกสายไฮดรอลิคนั้นควรจะถูกพิจารณาด้วยขนาดของเครื่องจักรที่จะปั๊มของเหลวก็ตามหรืออากาศก็ดีผ่านตัวสาย ข้างในของสายจะต้องมีขนาดที่กว้างมากพอที่จะรองรับอะไรก็ตามที่จะไหลผ่านมัน รวมไปถึงความสามารถในการทนต่อแรงดันและความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีในสายหรือจะเป็นจากสิ่งที่ไหลผ่านก็ตาม ซึ่งสายไฮดรอลิคที่ผลิตจากโรงงานทั่วไปจะมีหมายเลขกำกับระบุขนาดอยู่เสมอ

อุณหภูมิ :

สายจะต้องสามารถรับอุณหภูมิได้ที่สองแบบด้วยกัน นั่นคืออุณหภูมิ "ที่สายถูกวางอยู่" กับ อุณหภูมิของ "สิ่งที่ไหลผ่านสาย" ทั้งสองลักษณะอุณหภูมินี้จะต้องมีค่าที่สูงอย่างสมดุลด้วยกันทั้งคู่ ความเข้ากันกับอุปกรณ์: เมื่อเลือกสายไฮดรอลิคตัวใหม่ ให้คำนึงถึงลักษณะความทนที่สายเก่าเคยทำได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับรองอุณหภูมิภายใน, ชนิดของๆเหลวที่สายเก่าสามารถรับรองได้ เป็นต้น