ข้อต่อ - ข้อต่อประเภทขันอัด ได้แก่ เกลียว NPT เป็นข้อต่อที่มีความเชื่อถือได้น้อยที่สุด สำหรับระบบไฮดรอลิคแรงดันสูง เนื่องจากฟันเกลียวจะถูกทำให้เสียรูปขณะขันอัด ทำให้มีโอกาสรั่วซึมได้ง่ายเมื่อมีการขันใหม่ ไม่ว่าจะขันแน่นน้อยลงหรือแน่นขึ้นก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกเกลียว UN หรือ BSP ซึ่งเป็นเกลียวตรงและซีลด้วย Soft Seal เช่น O-ring หรือ Square-ring ซึ่งจะสามารถรองรับการสั่นสะเทือนได้ดีขึ้นด้วย

สายไฮดรอลิค - ในกรณีของสายไฮดรอลิค บริษัทผู้ผลิตได้ประมาณว่า 80% ของความเสียหายเกิดจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ การติดตั้งที่ไม่เหมาะสม, การถูกกระแทกหรือเสียดสี, และการถูกกัดกร่อนจากสภาวะแวดล้อม การป้องกันความเสียหายทำได้โดย เพิ่มจุดรองรับหรือยึดสายให้มั่นคงแข็งแรง เลือกเดินแนวติดตั้งสายให้เหมาะสม ถ้ามีความจำเป็นอาจเพิ่ม Hose Guard เช่นสปริงเหล็ก หรือ Polyethelene Spiral Wrap เพื่อป้องกันการกระแทก

น้ำมันในระบบไฮดรอลิค ทำหน้าที่เป็นสารตัวกลางในการถ่ายทอดพลังงานเป็นสารหล่อลื่น สำหรับชิ้นส่วนที่มีพิกัดความละเอียดสูง และช่วยระบายความร้อนให้กับระบบ น้ำมันไฮดรอลิคจึงจัดเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของระบบไฮดรอลิคที่สำคัญกล่าวกันว่าประมาณ 70% ของปัญหาในระบบไฮดรอลิค มักมีสาเหตุมาจากการใช้ชนิดของน้ำมันไฮดรอลิคที่ไม่เหมาะสม หรือน้ำมันสกปรก หรือมีสิ่งปนเปื้อนในน้ำมันมากเกินไป

การเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคให้เหมาะสมกับระบบหรือสภาวะการทำงานนั้น เป็นการเพิ่มสมรรถนะให้แก่อุปกรณ์ และอายุการใช้งานของระบบก็ยาวนานขึ้น ในการพัฒนาอุปกรณ์ไฮดรอลิคนั้น ผู้ผลิตต้องศึกษาถึงคุณสมบัติของน้ำมันที่มีอยู่อย่างระมัดระวัง เพื่อค้นหาชนิดที่เหมาะที่สุด กับการทำงานในสภาวะต่างๆ ในบางครั้งก็จำเป็นต้องพัฒนาน้ำมันชนิดใหม่ ขึ้นมาด้วยเพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ถูกต้องนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมเราจึงต้องเลือกใช้น้ำมันที่ผู้ผลิตอุปกรณ์แนะนำให้ใช้

ความเสียหายภายนอก

ประมาณ 80% ของความเสียหายของสายมีสาเหตุมาจากความเสียหายทางกายภาพภายนอก เช่น การดึง การบิด การกระแทก หรือ รอยขีดข่วนที่เกิดจากการเสียดสีกับวัสดุอื่นๆ เพื่อป้องกันความเสียหายภายนอกนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายถูกติดตั้งไว้ในที่ปลอดภัย ใส่ใจระมัดระวังเส้นทางในการเดินท่อ ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้พลาสติกห่อ หรือ สปริง เพื่อป้องกันการเสียดสีของสายไฮดรอลิค การบิดของสายไฮดรอลิค

การบิดของสายไฮดรอลิคจะทำให้เส้นลวดในสายเกิดความเสียหาย การบิดของสายที่ 5 องศาสามารถลดอายุการใช้งานของสายไฮดรอลิคลง 70% และการบิดตัวของสายที่ 7 องศาจะส่งผลในการลดอายุการใช้งานลง 90% เช่น ถ้าสายเรารับแรงดันได้ 100 bar เมื่อสายบิดที่ 5 องศา จะสามารถรับแรงดันได้เพียง 30 bar เท่านั้น

สาเหตุของการบิดมาจากการอัดสายและติดตั้งทิศทางของข้อต่อผิดทาง แล้วต้องบิดเพื่อให้ติดตั้งได้ หรืออาจเกิดจากการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรไปดันให้สายผิดรูป

สภาพการดำเนินงาน

สภาพการดำเนินงานที่ท่อไฮดรอลิคสามารถส่งผลกับอายุการใช้งานของสายไฮดรอลิคได้ เช่นสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือสภาพอากาศที่หนาวจัด สามารถทำให้สายเสื่อมสภาพได้ง่าย

การกระแทกของน้ำหนักที่เกิดขึ้นกับกระบอกไฮดรอลิคก็จะส่งผลกับสายไฮดรอลิคโดยตรง คือความถี่ของการกระแทกจะทำให้เส้นลวดในสายเกิดความล้า การเลือกสายสำหรับการใช้งานลักษณะนี้ไม่ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับความดันทำงาน (working pressure) ควรเผื่อแรงดันทำงานของสายไว้พอสมควรเพื่อรองรับกับการกระแทกของภาระที่เกิดขึ้น